วันนั้นเป็นวันหยุดครั้งแรกในรอบเดือนหลังจากการทำงานมาอย่างเหนื่อยล้าตลอดทั้งเดือนของชีวิตพนักงานออฟฟิสที่ทำโอทีอย่างบ้าคลั่งแบบผมฮ่าๆๆ กะว่าจะหยุดให้สบายๆซักหน่อย วันหยุดก็ไม่อยากทำอะไรตื่นแต่เช้ามาด้วยความเคยชินตามประสาพนักงานออฟฟิสนั่งเล่นเกมดูหนังไปซักพัก ก็มีโทรศัพท์เข้ามาจากเพื่อนสนิทของผมเอง เพื่อนก็โทรมาบอกว่าอย่างลืมที่นัดกันนะผมก็งงว่านัดอะไรกับมันไว้ เพื่อนผมมันก็ทำหน้าที่เตือนความจำคือวันนี้ผมนัดกับเพื่อนสนิทของผมไว้ว่าจะไปเป็นรถขนของจำเป็นให้เพื่อนของผมมันวันนึง เพราะเพื่อนของผมจะย้ายห้องนั้นเองผมก็เลยต้องไปทำหน้าที่เป็นคนขับรถขนของจำเป็นให้เพื่อนมันหนึ่งวันเต็ม คิดได้ดังนั้นก็ถึงกับมึนไปเลย ลืมตัวไปว่าตัวเองไปสัญญากับเพื่อนมันเองและแล้ววันหยุดอันแสนมีค่าของผมก็ต้องจบลง เมื่อทำใจได้แล้วก็ทำหน้าที่ขับรถขนของจำเป็นไปที่ห้องเก่าของเพื่อนสนิทของผม เมื่อผมขับรถขนของจำเป็นใกล้จะถึงแล้วห้องเพื่อนของผมแล้วก็โทรบอกให้เพื่อนผมมันลงมารอเลย ให้ขนของเล็กๆน้อยๆที่พอจะขนได้ลงมาเลย เมื่อผมขับรถขนของจำเป็นมาถึงเพื่อนผมมันขนของเล็กๆน้อยๆลงมานั่งรอแล้วเรียบร้อย ผมก็จัดการช่วยเพื่อนของผมขนของขึ้นรถขนของจำเป็นของผมทันทีเพื่อความรวดเร็ว
จากนั้นผมและก็เพื่อนของผม พากันขึ้นไปที่ห้องของเพื่อนผมเพื่อที่จะได้ขนของ ชิ้นต่อไปๆ เนื่องจากห้องเพื่อนนั้นมันอยู่ในตึกที่ไม่ได้มีลิฟขนส่งเพราะมันมีแค่สี่ชั้น แล้วเพื่อนผมมันก็โชคร้ายได้อยู่ชั้นสี่แล้วก็เพื่อนมันก็เลยต้องขนของจากชั้นสี่ลงไปชั้นหนึ่งซึ่งเป็นอะไรที่เหนื่อยมากครับ เหนื่อยสุดสุด อีกอย่างคือของที่จะขนไปกันนั้น มีทั้งตู้เสื้อผ้า ดู้เย็น ทีวี เครื่องซักผ้า แล้วก็เตียงนอนขนาดใหญ่มากอีกเช่นกัน ก็สงสัยอยู่ว่านี่เพื่อนของผมมันอยู่ห้องนนี่คนเดียวหรือยังไง หรือมีใครมาอยู่ด้วยของมันถึงได้เยอะขนาดนี้ จากนั้นก็ขนของทั้งหมดขึ้นรถขนของจำเป็นของผมเป็นที่เรียบร้อย แต่กว่าจะขนขึ้นรถขนของจำเป็นได้ทั้งหมดนั้นใช้เวลาอยู่นานพอดูเลยก็ว่าได้ เพราะตู้เสื้อผ้าของเพื่อนผมนั้นมันค่อนข้างที่จะใหญ่มาก กว่าผมและเพื่อนจะช่วยกันเอาของขึ้นไปบนรถขนของจำเป็นของผมได้นั้นมันลำบากจริงๆ ไหนจะเตียงอีกหลังใหญ่มาก ซื้อมานอนกี่คนกันแน่เนี่ยใหญ่แบบนอนสามคนเลยอ่ะครับ ถึงว่าห้องของเพื่อนผมไม่ค่อยมีที่จะให้เดินซักเท่าไหร่ เมื่อขนเสร็จรถกระบะที่เอามาเป็นรถขนของจำเป็นวันนี้ของผมนั้นดูเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับจำนวนของใช้ของเพื่อนผมแล้ว
จากนั้นผมและก็เพื่อนของผม พากันขึ้นไปที่ห้องของเพื่อนผมเพื่อที่จะได้ขนของ ชิ้นต่อไปๆ เนื่องจากห้องเพื่อนนั้นมันอยู่ในตึกที่ไม่ได้มีลิฟขนส่งเพราะมันมีแค่สี่ชั้น แล้วเพื่อนผมมันก็โชคร้ายได้อยู่ชั้นสี่แล้วก็เพื่อนมันก็เลยต้องขนของจากชั้นสี่ลงไปชั้นหนึ่งซึ่งเป็นอะไรที่เหนื่อยมากครับ เหนื่อยสุดสุด อีกอย่างคือของที่จะขนไปกันนั้น มีทั้งตู้เสื้อผ้า ดู้เย็น ทีวี เครื่องซักผ้า แล้วก็เตียงนอนขนาดใหญ่มากอีกเช่นกัน ก็สงสัยอยู่ว่านี่เพื่อนของผมมันอยู่ห้องนนี่คนเดียวหรือยังไง หรือมีใครมาอยู่ด้วยของมันถึงได้เยอะขนาดนี้ จากนั้นก็ขนของทั้งหมดขึ้นรถขนของจำเป็นของผมเป็นที่เรียบร้อย แต่กว่าจะขนขึ้นรถขนของจำเป็นได้ทั้งหมดนั้นใช้เวลาอยู่นานพอดูเลยก็ว่าได้ เพราะตู้เสื้อผ้าของเพื่อนผมนั้นมันค่อนข้างที่จะใหญ่มาก กว่าผมและเพื่อนจะช่วยกันเอาของขึ้นไปบนรถขนของจำเป็นของผมได้นั้นมันลำบากจริงๆ ไหนจะเตียงอีกหลังใหญ่มาก ซื้อมานอนกี่คนกันแน่เนี่ยใหญ่แบบนอนสามคนเลยอ่ะครับ ถึงว่าห้องของเพื่อนผมไม่ค่อยมีที่จะให้เดินซักเท่าไหร่ เมื่อขนเสร็จรถกระบะที่เอามาเป็นรถขนของจำเป็นวันนี้ของผมนั้นดูเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับจำนวนของใช้ของเพื่อนผมแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น